วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

หยุดปัญหาเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

หยุดปัญหาเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร

                การเปลี่ยนแปลงสภาพแวดล้อมทางสังคม ครอบครัวและเศรษฐกิจ ตลอดจนเทคโนโลยีต่างๆ ส่งผลต่อพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ และการตั้งครรภ์ในกลุ่มเด็กวัยเรียนและวัยรุ่น โดยเฉพาะในยุคไอทีก้าวหน้า ทุกคนสามารถเข้าถึงและเรียนรู้สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
          แน่นอนว่าเด็กและวัยรุ่นยังมีภาวะอารมณ์ที่อ่อนไหว คล้อยตามคารมโน้มน้าวได้ง่าย ขณะเดียวกันก็กล้าคิดกล้าทำและพร้อมที่จะเปิดรับสิ่งต่างๆ ขาดการยั้งคิด โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติดและเรื่องของการมีเพศสัมพันธ์ก่อนวันอันควร
          ปัจจุบันวัยรุ่นไทยมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่ อายุน้อยและไม่มีการป้องกัน ทำให้เกิดปัญหาการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์ หลายคนกลายเป็นคุณพ่อมือใหม่ คุณแม่มือใหม่ หรือหนักกว่านั้น คือ ท้องไม่มีพ่อ สุดท้ายเมื่อคลอดบุตรแล้ว ก็ทิ้งไว้เป็นภาระแก่พ่อแม่ (หรือปู่ย่าตายาย) เลี้ยง จนเด็กขาดความอบอุ่น ส่งผลต่อปัญหาสังคมตามมาอีกมากมายไม่จบสิ้น นอกจากนี้คู่รักวัยรุ่นยังสุ่มเสี่ยงกับการเกิดโรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ เพราะไม่รู้จักการป้องกัน ปัญหาเหล่านี้ทำให้หลายๆ คนถึงกับหมดอนาคต
          กลุ่มโรงเรียนเครือข่ายอำเภอขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 ได้แก่ โรงเรียนสวัสดีวิทยา โรงเรียนบ้านนาก๊อก และโรงเรียนบ้านเรียม เป็นอีกหนึ่งกลุ่มโรงเรียน ที่ให้ความสำคัญกับเพศศึกษาในวัยรุ่น จึงได้ 
จัดทำโครงการ "การจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วม ขององค์กรในชุมชนเพื่อสร้างความรู้ ความรัก และทักษะเพศศึกษาที่ถูกต้องสร้างเยาวชนไทย ให้สมบูรณ์"
          โครงการดังกล่าวอยู่ในชุด โครงการจัดการศึกษาแบบมีส่วนร่วมขององค์กรในชุมชน เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน ของ สสส. ซึ่ง ดำเนินโครงการจำนวน 64 โครงการหลัก ในกว่า 300 โรงเรียน ทั่วทุกภูมิภาค โดยเป็นโครงการที่เน้นกระบวนการสร้างการมีส่วนร่วมระหว่างสถานศึกษาและชุมชน เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ที่ยั่งยืน มีประเด็นปัญหาที่เกี่ยวกับสุขภาวะของเด็กและเยาวชนในพื้นที่เป็นตัวตั้ง ครอบคลุมปัจจัยเสี่ยง 4 ด้าน คือ เหล้า บุหรี่ อาหารที่ปลอดภัย และสุขภาวะทางเพศ ซึ่งแต่ละโรงเรียน แต่ละชุมชน แต่ละพื้นที่มีประเด็นปัญหาที่แตกต่างกันและมีทุนทางสังคมรวมทั้ง บริบทปัญหาที่ไม่เหมือนกัน การสร้างองค์ความรู้ และความร่วมมือจึงเป็นกลไกสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาของแต่ละชุมชนได้ "เพศศึกษาไม่ใช่เป็นแค่เรื่องเพศสัมพันธ์ มันมีมากกว่านั้น เราตั้งเป้าจะทำยังไงที่ ลดปัญหาได้ นั่นคือ เพิ่มเติมความรู้ให้เยาวชน ให้เขาลด หรือแม้เขาจะมีเพศสัมพันธ์ แต่ก็ต้องให้เขาป้องกันตัวเอง โดยเราจะสอดแทรกการนำเอาครอบครัวอบอุ่นมาช่วยเสริม ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ให้เรื่องสุขภาวะเรื่องเพศลดน้อยลง" กิตติศักดิ์ มครนันท์ ครูประจำโรงเรียนสวัสดีวิทยา บอกถึงความตั้งใจในการแก้ปัญหาวัยรุ่นกับเรื่องเพศสัมพันธ์
          การดำเนินโครงการทั้ง 3 โรงเรียนใน เครือข่าย จะวางแผนร่วมกับทุกองค์กรในชุมชน ได้แก่ ผู้ปกครอง ผู้นำชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบล (รพ.สต.) โรงพยาบาล สถานีตำรวจ โดยมีการทำบันทึกข้อตกลงร่วมกันในการสร้าง องค์ความรู้ด้วย เมื่อผ่านการเห็นชอบจาก ทุกคนแล้วจะนำนักเรียนกลุ่มเสี่ยงและแกนนำ มาทำกิจกรรมร่วมกัน
          รูปธรรมชัดเจนที่สุดของกลุ่มโรงเรียนเครือข่ายอำเภอขุขันธ์ดำเนินการและประสบความสำเร็จ คือการจัดทำหลักสูตรวิชา เพศศึกษา ไว้ในหลักสูตรการเรียนการสอน ไม่ใช่เป็นเพียงแค่บทเรียนบทหนึ่งในวิชาสุขศึกษาอีกต่อไป เพราะมีการสอน และสอบเก็บคะแนนเหมือนวิชาสามัญอื่นๆ
          "เราจัดทำขึ้น ก็มาจากความร่วมมือ ของทุกฝ่าย โดยเฉพาะ รพ.สต. ที่ช่วยดูว่า ไม่ให้เนื้อหาส่อไปในทางทะลึ่งได้อย่างไร บางเรื่องต้องพูด เพราะพ่อแม่ไม่กล้าพูด แต่เมื่อ ครูพูดเด็กก็กล้าเปิดใจ กล้าบอกเล่าเรื่องราวให้เราได้ฟัง" ครูกิตติศักดิ์ ย้ำชัดถึงความสำคัญ ของการสอนเรื่องการเพศศึกษาให้กับเด็ก และ เยาวชน
          ขณะเดียวกัน ยังพบว่านักเรียนที่เรียนวิชาเพศศึกษา เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เช่น เมื่อมีปัญหามักจะเดินเข้าปรึกษาครู ซึ่งแตกต่างจากก่อนหน้านี้ที่มักจะเก็บปัญหาไว้กับตัวเอง เมื่อความสัมพันธ์ระหว่างครูกับนักเรียนใกล้ชิดกันมากขึ้น ก็นำมาซึ่งกิจกรรมสร้างสรรค์มากมาย

ที่มา : http://www.thaihealth.or.th/Content/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น