วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

วัยรุ่นวุ่นรัก...ท้องครั้งนี้ใครไม่พร้อม

วัยรุ่นวุ่นรัก...ท้องครั้งนี้ใครไม่พร้อม
 หนึ่งในปัญหาทางเพศที่กำลังได้รับความสนใจจากหน่วยงานรัฐอยู่ในขณะนี้คือ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่นซึ่งอาจจะแปลได้ว่าเป็นการตั้งครรภ์โดยไม่พร้อมนั่นเอง ซึ่งในที่นี้จะไม่นับคู่สามีภรรยาที่แต่งงานกันแล้วแต่ยังไม่พร้อมที่จะมีบุตร ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม เพราะหากเกิดการตั้งครรภ์โดยไม่ตั้งใจขึ้นมา สามีภรรยาคู่นั้นๆ น่าจะสามารถหาทางออกได้ง่ายและเหมาะสมกว่าวัยรุ่น ซึ่งยังมีชีวิตแบบเด็กๆ อยู่
     จากการได้มีโอกาสเข้าไปดูแลเรื่องของการคัดกรองเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพจิตในส่วนของคลินิกฝากครรภ์ ซึ่งเน้นไปที่คุณแม่ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีลงมา ทำให้ผมพบว่า จะมีกลุ่มเยาวชนทั้งที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนหรือออกจากโรงเรียนไปแล้วเข้ามาฝากครรภ์สัปดาห์ละประมาณ 3-5 คนเป็นอย่างน้อย ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะมากับผู้ปกครอง มีบ้างที่มากับสามี(หรือพ่อของลูกในท้อง) โดยเด็กๆ เหล่านี้จะอยู่ในสถานการณ์เหมือนโดนบังคับให้รับสภาพที่เกิดขึ้น หลายครั้งเมื่อได้พูดคุยก็จะพบว่า เด็กยังคงมีความสับสนเกี่ยวกับอนาคตข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร โดยเฉพาะในรายที่เพิ่งทราบว่าตั้งครรภ์หรืออายุครรภ์น้อยๆ ซึ่งส่วนมากเมื่อสอบถามถึงสาเหตุแห่งการตั้งครรภ์ก็จะพบว่า

      * เพิ่งมีแฟนคนแรก และยังไม่ค่อยเข้าใจหรือยังไม่ค่อยตระหนักถึงการป้องกันการตั้งครรภ์เมื่อมีเพศสัมพันธ์ โดยส่วนใหญ่จะมีความไว้เนื้อเชื่อใจฝ่ายชายว่ามีประสบการณ์มากกว่า น่าจะรู้วิธีการป้องกันที่จะทำให้ไม่ตั้งครรภ์ได้ แม้ว่าบางรายจะเคยเรียนเรื่องการคุมกำเนิดมาบ้างแล้ว แต่เมื่อมาเจอสถานการณ์จริงๆ ก็อายที่จะแสดงความรู้นี้ออกไป หรือไม่ก็คิดว่าแค่ครั้งเดียวคงไม่ท้อง

      * การขาดความรู้เรื่องเพศศึกษา เริ่มจากเรื่องการคุมกำเนิดตั้งแต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจจะไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจที่จะมีเพศสัมพันธ์ไว้ก่อน แถมเมื่อมีเพศสัมพันธ์แล้วก็ยังขาดความรู้เรื่องยาคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินอีก จนทำให้เกิดการท้องในที่สุด หรือบางรายก็เลือกใช้วิธีการคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันการตั้งครรภ์ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ถุงยางอนามัย เช่น การหลั่งข้างนอก การนับรอบเดือน เป็นต้น ด้วยความเชื่อว่าถุงยางอนามัยทำให้ไม่สนุกสุดเหวี่ยง ไม่เท่ ไม่กล้า ไม่แน่จริง ฯลฯ

      * ฝ่ายหญิงต้องการตั้งท้องเพื่อให้ฝ่ายชายหันมาสนใจ โดยที่ในความเป็นจริงแล้วตนเองก็ยังไม่พร้อมและไม่ตั้งใจที่จะมีลูก หรือบางครั้งก็เป็นความประสงค์ของฝ่ายชายที่จะทำให้ภรรยาอยู่ติดบ้านเพื่อเลี้ยงลูก กลายเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ซึ่งใหญ่กว่าเดิมโดยไม่รู้ตัว สำหรับสาเหตุข้อนี้ ถ้าไม่ได้เจอกับตัวเองในการให้การปรึกษา ผมคงไม่เชื่อว่าเด็กอายุเพิ่งย่างเข้าวัยรุ่นสมัยนี้จะมีความคิดที่ไม่ต่างอะไรกับเด็กวัยรุ่นในยุคที่เรื่องเพศยังเป็นเรื่องปกปิด หรือวัยรุ่นในยุคโบราณนั่นเอง

      * ค่านิยมการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ไส่ถุงยางอนามัย ซึ่งบางครั้งค่านิยมดังกล่าวก็มาจากต้นแบบในหนังโป๊ต่างๆ ที่เยาวชนสามารถเสาะหามาดูกันได้ง่ายๆ สิ่งที่น่ากลัวคงไม่ใช่การดูหนังโป๊เหล่านั้น แต่อยู่ที่เยาวชนมักจะเลียนแบบสิ่งที่อยู่ในหนังมากกว่า นั่นคือการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัยนั่นเอง เพราะนอกจากเสี่ยงต่อการท้องไม่พร้อมของฝ่ายหญิงแล้ว ยังเสี่ยงที่จะเกิดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อีกด้วย โดยเฉพาะ โรคเอดส์
     จากสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหาท้องไม่พร้อมดังที่กล่าวมาในข้างต้นน่าจะทำให้เราตะหนักว่า ประโยคที่พูดกันว่า ไม่ต้องสอนเรื่องเพศศึกษาหรอก โตไปเดี๋ยวก็รู้เองนั้นใช้ไม่ได้ผลอย่างสิ้นเชิง เพราะเด็กควรได้รับข้อมูลที่เพียงพอต่อการตัดสินใจว่าจะมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ รวมถึงควรมีความรู้ที่จะปกป้องตัวเองจากปัญหาดังกล่าว ซึ่งการแก้ปัญหานี้จึงควรมีแนวทางดังนี้

      * การสอนเพศศึกษาในโรงเรียน ซึ่งถือว่าเป็นการแก้ปัญหาที่ดีเพราะเป็นการแก้ที่ต้นเหตุ ทำให้นักเรียนได้รับความรู้อย่างเต็มที่และหลากหลาย ดังนั้นแทนที่จะไปแฝงอยู่กับวิชาอนามัยเจริญพันธุ์ หรือวิชาสุขศึกษา อย่างเช่นสมัยก่อน ก็ควรสอนวิชาเพศศึกษาเพื่อให้วัยรุ่นเข้าใจและนำไปใช้ในการปฏิบัติได้ 

      * การให้ความช่วยเหลือโดยให้การปรึกษาทั้งก่อนและหลังการท้องไม่พร้อม โดยเน้นเรื่องการเสริมสร้างกำลังใจ และหาทางออกที่เหมาะสมให้กับแต่ละรายไป

      * การปลูกฝังค่านิยมเรื่องเพศสัมพันธ์ที่มีวุฒิภาวะให้เกิดขึ้นในสังคมไทย นั่นคือการมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจะต้องเกิดจากความสมัครใจ เต็มใจ ปราศจากการขู่เข็ญ และยังต้องเป็นเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัย ไม่เสี่ยงต่อการติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือเกิดผลลัพธ์ที่ไม่ต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการท้องไม่พร้อม เรียกว่าวัยรุ่นต้องมีความรับผิดชอบกับเพศสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นด้วย

      * มีสถานบริการที่เป็นมิตร เพราะวัยรุ่นต้องการได้รับความช่วยเหลือเมื่อเกิดการตั้งครรภ์โดยที่ยังไม่พร้อม ไม่ว่าจะเป็นการให้การดูแลหากเขาต้องการที่จะตั้งครรภ์ต่อไป หรือแม้กระทั่งการยุติการตั้งครรภ์
     ที่สำคัญวัยรุ่นที่ตั้งท้องโดยไม่พร้อมยังมีความต้องการในเรื่องของกำลังใจ การสนับสนุนทางด้านจิตใจ ซึ่งสามารถแบ่งเป็นระดับได้ดังต่อไปนี้

      * ครอบครัว แม้ว่าส่วนใหญ่แล้วคนที่รู้เรื่องก่อนมักจะเป็นเพื่อน แต่คนที่วัยรุ่นอยากให้เข้าใจมากที่สุดคงจะเป็นคุณพ่อคุณแม่ ซึ่งเป็นคนที่น่าจะรักเขามากที่สุด แต่ถ้าปรากฏว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่ยอมรับ ก็มักจะทำให้วัยรุ่นที่ท้องไม่พร้อมเกิดปัญหาด้านจิตใจตามมา ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงอาจจะต้องใจเย็นๆ สักนิด

      * จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา บางครั้งเมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในครอบครัวจากการที่ลูกวัยรุ่นท้องไม่พร้อม การหาคนกลางมาช่วยสมานฉันท์ดูจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี เช่น อาจจะเป็นญาติพี่น้องที่มีความใกล้ชิด แต่หากไม่มีคนในครอบครัวสามารถทำหน้าที่นี้ได้ การไปขอรับคำปรึกษาจากจิตแพทย์หรือนักจิตวิทยาก็ดูจะเป็นอีกทางออกที่น่าสนใจ เพราะคนกลุ่มนี้จะมีความเข้าใจพฤติกรรมหรืออารมณ์ที่คนในครอบครัวและตัววัยรุ่นแสดงออกมา

     จะเห็นว่านอกจากตัววัยรุ่นจะได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจจากการท้องไม่พร้อมแล้ว ผู้ปกครองหรือคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องการกำลังใจด้วยเช่นกัน เพราะบางครั้งอารมณ์หรือพฤติกรรมที่คุณพ่อคุณแม่แสดงออกมานั้น ก็เกิดจากความไม่พร้อมด้านจิตใจนั่นเอง จึงต้องให้เวลากับทั้งสองฝ่ายในการปรับตัว

ที่สำคัญอย่าลืมว่า ไม่มีวิธีแก้ปัญหาวัยรุ่นท้องไม่พร้อมได้ดีเท่ากับการป้องกัน ซึ่งทุกฝ่ายต้องร่วมมือกัน


ที่มา : http://www.healthtoday.net/thailand/sexual/sexual_127.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น